ปริญญาโทคืออะไร? ต่างจาก MBA อย่างไร (สรุปแบบเข้าใจง่าย)

สำหรับคนทำงานในประเทศไทย ที่กำลังตัดสินใจเรียนต่อ

  • ปริญญาโท (Master’s Degree) = วุฒิหลังปริญญาตรี เพื่อ “รู้ลึก” หรือ “ยกระดับทักษะวิชาชีพ” ซึ่งวุฒิปริญญาโท ของแต่ละคณะจะมีความแตกต่างกัน เช่น

    - วุฒิปริญญาโทบริหารธุรกิจ เรียกว่า บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มีตัวย่อว่า บธ.ม. (MBA หรือ Master of Business Administration)

    - วุฒิปริญญาโทวิทยาศาตร์ เรียกว่า วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต มีตัวย่อว่า วท.ม. (MS หรือ Master of Science)

    - วุฒิปริญญาโทรัฐศาสตร์ เรียกว่า รัฐศาสตรมหาบัณฑิต มีตัวย่อว่า ร.ม. (M.Pol.Sc. หรือ Master of Political Science)

    - ส่วนคณะอื่นๆ ก็จะเรียกแตกต่างกันไปตามศาสตร์แต่ละคณะ

  • MBA (Master of Business Administration) = ปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ เน้นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เคสจริง โปรเจกต์จริง เครือข่ายคนทำงาน เหมาะกับผู้จัดการ/ผู้ประกอบการ/คนอยากเปลี่ยนสายสู่บทบาทบริหาร ซึ่งต้องทำความเข้าใจเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคล เนื่องจากในหลักสูตรแต่ละมหาวิทยาลัยก็ยังมีเอกวิชา หรือสาขาวิชาเพิ่มเติม อีกเช่น การตลาด, การจัดการ, การบัญชี และการเงินการธนาคาร เป็นต้น

 

การเรียนตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโท เป็นเรื่องที่ดีในการพัฒนาตัวเอง แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องรู้จักเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนของตัวเอง เพื่อการพัฒนาตัวเองได้เกิดประโยชน์สูงสุด

Surachet Sowkietrung

ปริญญาโทคืออะไร (เข้าใจง่ายใน 1 นาที)

  • เป้าหมาย: ยกระดับความรู้จากปริญญาตรี → เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน/ทำวิจัยได้เป็นระบบ หรือยกระดับทักษะวิชาชีพ

  • สายหลัก

      - สายวิชาการ (เช่น MA/MSc/M.Ed.): ทฤษฎีลึก + วิทยานิพนธ์/งานวิจัย

      - สายวิชาชีพ (เช่น MBA/MPA/MEng): เน้นปฏิบัติ แก้โจทย์จริง โปรเจกต์/แผนธุรกิจ

  • ผลลัพธ์: วุฒิสูงขึ้น โอกาสเติบโตในสายงานกว้างขึ้น รายได้และบทบาทเพิ่มขึ้น

     

MBA คืออะไร (ภาษาคนทำงาน)

  • MBA = ปริญญาโทบริหารธุรกิจ ที่บูรณาการ การตลาด–การเงิน–กลยุทธ์–การจัดการคน–ดิจิทัล/ดาต้า (สังเกตได้จากรายวิชาที่ต้องเรียน)

  • โฟกัส “การตัดสินใจของผู้บริหาร”: ใช้เคสจริง เวิร์กช็อป โปรเจกต์ จำลองสถานการณ์ (simulation)

  • เหมาะกับ: ผู้จัดการ/หัวหน้าทีม, ผู้ประกอบการ, คนอยาก เปลี่ยนสายสู่บทบาทบริหาร

  • ปกติแล้ว MBA จะมีเอกวิชา/หรือสาขาให้เลือก เพิ่มเติม เช่น การตลาด การจัดการ บัญชี การเงิน เป็นตัน และแต่ละเอกวิชา/สาขาวิชา จะมีรายวิชาเลือกแตกต่างกัน 4-5 วิชา

ปริญญาโทต่างกันยังไง: ปริญญาโททั่วไป vs MBA

ประเด็น ปริญญาโทสายวิชาการ (MA/MSc ฯลฯ) MBA (บริหารธุรกิจ)
จุดเน้น ทฤษฎีลึก ความเชี่ยวชาญ และงานวิจัยเฉพาะสาขา การบริหารบูรณาการ การตัดสินใจ
วิธีเรียน อ่านงานวิชาการ แนวคิดวิธีการเฉพาะทาง เคสจริง โครงการ แผนธุรกิจ Simulation
เพื่อนร่วมชั้น นักวิจัย/สายงานเฉพาะ คนทำงานหลากอุตฯ เครือข่ายธุรกิจหนาแน่น
ผลลัพธ์อาชีพ นักวิเคราะห์/นักวิจัย/ผู้เชี่ยวชาญ ผู้จัดการ/ผู้นำหน่วยธุรกิจ/ผู้ประกอบการ

ถ้า “อยากเก่งลึกเฉพาะด้าน” → ปริญญาโทสายวิชาการ
ถ้า “อยากตัดสินใจ/บริหาร/ขยายธุรกิจ” → MBA

 

  • MBA = ปริญญาโทบริหารธุรกิจ ที่บูรณาการ การตลาด–การเงิน–กลยุทธ์–การจัดการคน–ดิจิทัล/ดาต้า (สังเกตได้จากรายวิชาที่ต้องเรียน)

  • โฟกัส “การตัดสินใจของผู้บริหาร”: ใช้เคสจริง เวิร์กช็อป โปรเจกต์ จำลองสถานการณ์ (simulation)

  • เหมาะกับ: ผู้จัดการ/หัวหน้าทีม, ผู้ประกอบการ, คนอยาก เปลี่ยนสายสู่บทบาทบริหาร

  • ปกติแล้ว MBA จะมีเอกวิชา/หรือสาขาให้เลือก เพิ่มเติม เช่น การตลาด การจัดการ บัญชี การเงิน เป็นตัน และแต่ละเอกวิชา/สาขาวิชา จะมีรายวิชาเลือกแตกต่างกัน 4-5 วิชา


    ขั้นตอนเลือกหลักสูตรที่ใช่

    1. กำหนดเป้าหมายอาชีพ: จะขึ้นผู้บริหาร/เปลี่ยนสาย/ขยายกิจการ?

    2. เลือกรูปแบบ: วิชาการ (เน้นวิทยานิพนธ์) หรือวิชาชีพ (เน้นโปรเจกต์จริง)

    3. ประเมินเวลา/ตารางเรียน: เสาร์-อาทิตย์/หลังเลิกงาน/ออนไลน์-ออนไซต์

    4. ดูสารบัญรายวิชา & Capstone: ต้องมีเคส/เครื่องมือ/ดาต้า/MarTech ที่อัปเดต

    5. ดูเครือข่ายศิษย์เก่า/อาจารย์ผู้สอน: มีผู้บริหาร/มืออาชีพจากอุตสาหกรรมร่วมสอน

    6. งบประมาณรวม: ค่าเรียน + เวลา + ค่าโอกาส (Time ROI)


    คำถามพบบ่อย (FAQs)

    Q: MBA ต้องเก่งเลขไหม?
    A: ไม่จำเป็นต้องลึกแบบนักวิจัยการเงิน หลักสูตรจะสอน “การเงินสำหรับผู้บริหาร” เพื่อการตัดสินใจ การคำนวนจะไม่ได้ใช้การคำนวนที่ยากเกินความสามารถ

    Q: ไม่มีพื้นฐานธุรกิจ เรียนได้ไหม?
    A: ได้ หลายโปรแกรมมีคอร์สพื้นฐาน และเรียนผ่านเคส/โปรเจกต์จริง ตามสถิตินักศึกษาที่เรียนต่อมากกว่า 60% ไม่ได้จบปริญญาตรีบริหารธุรกิจ จะมาจากศาสตร์ต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปกรรม สื่อสารมวลชน เป็นต้น

    Q: ต้องทำวิทยานิพนธ์ไหม?
    A: หากต้องการเรียนเพื่อมุ่งเน้นสายวิชาการ ก็แนะนำให้เรียนในแผน ก ทำวิทยานิพนธ์ หากต้องการเรียนเพื่อพัฒนาตัวเอง เพื่อทำงาน และเติบโตในสายงาน ก็เรียนในแผน ข ไม่ทำวิทยานิพนธ์ (ปัจจุบันจะเป็นการค้นคว้าอิสระ ตามเกณฑ์ที่ สป.อว. (อดีต สกอ.) กำหนด

    Q: MBA สายการตลาดต่างจาก MSc Marketing อย่างไร?
    A: MSc จะลึกเฉพาะทาง (เช่น Consumer/Analytics) มีความสามารถเข้าใจ วิเคราะห์และเก็บข้อมูลได้เก่ง ส่วน MBA มองภาพรวมเพื่อการนำองค์กร หากเป็นนักการตลาดจะสามารถนำข้อมูลที่ได้มาแล้ว แสวงหาและสร้างโอกาสในการวางแผนการตลาด


    หากต้องการเรียน MBA การตลาด เพื่อคนทำงาน

    • หากคุณทำงานใน กรุงเทพฯ/ปริมณฑล และต้องการเรียน เสาร์–อาทิตย์ เพื่อไม่กระทบงาน เลือกโปรแกรมที่มี ตารางเรียนสำหรับคนทำงาน

    • มองหาหลักสูตรที่ เน้นดิจิทัล/MarTech/AI/CRM/Analytics เพื่อให้ทันตลาดแรงงานไทยและอาเซียน

    • ตรวจสอบ สถานที่เรียน/การเดินทาง/ที่จอดรถ เพื่อความต่อเนื่องในการเรียน

    ตัวอย่างความเชี่ยวชาญที่เป็นที่ต้องการในไทย: Digital Marketing, Data-Driven Marketing, MarTech, CRM, SEO/SEM, Social Media Strategy, AI for Marketing, Business Analytics